แนวโน้มราคายางธรรมชาติในปัจจุบันไม่สะท้อนปัจจัยพื้นฐาน
กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย - Media OutReach - 29 สิงหาคม 2017 - การประชุมร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสภาไตรภาคียางพารา (International Tripartite Rubber Council - ITRC) และคณะกรรมการบริหารของ บริษัท ร่วมทุนยางพาราระหว่างประเทศ จำกัด (IRCo) ได้สรุปว่าราคายางธรรมชาติ (NR) ในปัจจุบันนั้นไม่ได้สะท้อนปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ
รัฐบาลของประเทศสมาชิกทั้งสามประเทศ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย แสดงความกังวลว่าราคายางที่กำลังลดลงในปัจจุบันและปัจจัยตลาดนั้นไม่ตรงกับความจริง รัฐบาลทั้งสามมั่นใจในความแข็งแกร่งของตลาดยางธรรมชาติ และราคาน่าจะปรับตัวตามปัจจัยพื้นฐาน
ในการประชุมดังกล่าวมีการพูดคุยสภาพการณ์ของผู้ถือครองยางรายย่อยและอุตสาหกรรมยางในประเทศ ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคายาง และมาตรการต่าง ๆ ที่อาจนำมาใช้ในการปรับปรุงราคายางธรรมชาติ
ทั้ง ITRC และ IRCo ได้รับการสนับสนุนจากผลการวิเคราะห์เชิงเทคนิคเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของราคาในตลาดหลักทรัพย์ Tokyo Commodity Exchange (TOCOM), Shanghai Futures Exchange (SHFE) and Singapore Commodity Exchange (SGX) หลายตัว ซึ่งชี้ให้เห็นว่าตลาดกำลังเข้าสู่ระยะมั่นคง ซึ่งหมายถึงการเกิดโมเมนตัมใหม่ในการกำหนดทิศทางใหม่ให้กับตลาด
สิ่งที่สนับสนุนข้อมูลบ่งชี้เกี่ยวกับระยะมั่นคงของตลาดคือ ผลการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของสัญญาคงค้าง (Open Interest) หรือจำนวนสัญญาฟิวเจอร์ที่เปิดฐานะหรือคงค้าง (ยังไม่ปิดหรือส่งมอบ) ที่มีอยู่ในวันนั้น ๆ และส่งมอบในวันใดวันหนึ่ง ซึ่งยืนยันว่า TOCOM, SHFE และ SGX กำลังอยู่ในภาวะขายมากเกินไป (Oversold) และจะทำให้เกิดการซื้อคืน (Short Covering) ในอนาคตอันใกล้
ผลการวิเคราะห์ดังกล่าวยังได้รับการสนับสนุนจากปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญ เช่น พื้นที่ผลิตในซีกโลกใต้เส้นศูนย์สูตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งอินโดนีเซีย คาดว่าจะชะลอการผลิตลงเนื่องจากเข้าสู่จุดสูงสุดของฤดูหนาว
นอกจากนี้ยังคาดการณ์กันว่าประเทศไทยและมาเลเซียจะชะลอการผลิตลงเนื่องจากราคายางตกต่ำและมีการเปลี่ยนแปลงของสภาวะอากาศ ประกอบกับฝนตกหนักผิดปกติในภาคเหนือของประเทศไทย ซึ่งส่งผลต่อการผลิตยางในภูมิภาค
อนึ่ง คาดว่าการบริโภคยางธรรมชาติในปี 2017 จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเมื่อพิจารณาจากการเติบโตของ GDP โลกที่ปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ การติบโตของ GDP ในประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่และดัชนีสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้นจะส่งเสริมอารมณ์ในตลาดยางธรรมชาติได้มากขึ้นด้วย
ตัวเลขประมาณการเติบโตของ GDP โลกประจำเดือนกรกฎาคมที่จัดทำโดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ยังเติบโตขึ้น 3.5% ในปี 2017 ซึ่งสูงกว่าตัวเลขที่พยากรณ์ไว้ 3.4% ในเดือนมกราคม และสูงกว่า GDP ของปี 2016 ซึ่งอยู่ที่ 3.2%
GDP ของประเทศหลัก ๆ ที่บริโภคยางธรรมชาติทุกประเทศ รวมถึงสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป และอินเดีย คาดว่าจะเติบโตขึ้น ในขณะที่ GDP ของประเทศจีนคาดว่าจะยังคงอยู่ที่ 6.7%
การเติบโตทางเศรษฐกิจที่แท้จริงของประเทศจีนในไตรมาสแรกและไตรมาสที่สองของปี 2017 อยู่ที่ 6.9% ซึ่งนับว่าเป็นการเติบโตที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบ 18 เดือน และชี้ให้เห็นถึงอุปสงค์จำนวนมาก
ยอดขายรถยนต์ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ในประเทศหลัก ๆ ที่บริโภคยางธรรมชาติ ได้แก่ จีน สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น ยังพบว่าเติบโตอย่างน่าพอใจ โดยมีตัวเลขอยู่ที่ 3.8%, 3.8%, 4.7% และ 9.2% ตามลำดับ
"เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าปัจจัยพื้นฐานทั้งหมดนี้และรูปแบบการบริโภคส่งผลให้สัดส่วนสต็อก-การบริโภคยางธรรมชาติปรับตัวลดลงจาก
3.02 ในตอนต้นปี 2016 มาเป็น 2.38 ในเดือนกรกฎาคม
2017 และคาดว่าจะลดลงเป็น 2.34 ภายในสิ้นปี 2017" นาย Mesah Tarigan
ประธานคณะกรรมการบริหารของ IRCo กล่าว
สมาคมประเทศผู้ผลิตยางธรรมชาติ (ANRPC) คาดการณ์ว่าจะเกิดความขาดแคลนภายในอุปสงค์-อุปทานยางธรรมชาติของโลกในปี 2017 แต่การคาดการณ์ดังกล่าวยังไม่ได้พิจารณาข้อเท็จจริงที่ว่าการผลิตยางธรรมชาติในประเทศไทยและมาเลเซียจะลดจำนวนลงเนื่องจากราคายางตกต่ำและสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงไป
ITRC และ IRCo จะยังคงเฝ้าติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มตลาดต่อไป และสำรวจมาตรการอื่น ๆ ที่น่าจะนำมาสร้างความเข้มแข็งให้กับราคายางธรรมชาติ เพื่อให้ผู้ถือครองรายย่อยในประเทศ ITRC ได้รับประโยชน์จากรายได้
นอกจากนี้ ประเทศสมาชิกทั้งสามประเทศยังให้ความสำคัญกับการสร้างความสมดุลให้กับอุปทานและอุปสงค์ในระยะยาว และดำเนินการตามแผนของรัฐบาลไทยในการลดพื้นที่ปลูกยางพาราลง 240,000 เฮกตาร์ ซึ่งจะลดอุปทานยางธรรมชาติลงได้อย่างถาวร 360,000 MT ต่อปี
ไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย จะยังคงมองหามาตรการระยะยาวมาเพิ่มการบริโภคยางธรรมชาติในประเทศและจะร่วมมือกันภายใต้กรอบการทำงานของ ITRC โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเสถียรให้กับราคายางธรรมชาติในระยะยาว
เกี่ยวกับสภาไตรภาคียางพารา (ITRC) และบริษัท ร่วมทุนยางพาราระหว่างประเทศ จำกัด (IRCo)
ประเทศสมาชิกของ ITRC ผลิตยางธรรมชาติคิดเป็นสัดส่วน 65% ของโลก และส่งออกยางธรรมชาติ 72% ของโลก
บริษัท ร่วมทุนยางพาราระหว่างประเทศ จำกัด (IRCo) คือบริษัทที่ผู้ผลิตและผู้ส่งออกยางธรรมชาติรายใหญ่สามประเทศเป็นเจ้าของ ได้แก่ รัฐบาลของราชอาณาจักรไทย รัฐบาลของสาธารณรัฐอินโดนีเซีย และรัฐบาลมาเลเซีย
ITRC & IRCo
Business
29 Aug 2017
Siaran Pers Sebelumnya
08 November 2017
La Nina, Heavy Rains And Wintering Season Expected To Reduce Global Supply Of Natural Rubber
28 August 2017