กรุงเทพฯ, ประเทศไทย - Media OutReach - 3 กันยายน 2564 - StashAway (สแทช-อเวย์) แพลตฟอร์มบริหารการลงทุน
(Digital Wealth Management Platform) ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสิงคโปร์
นำเสนอบริการการลงทุนในสินทรัพย์ทั่วโลกผ่าน ETF บนแอปพลิเคชันที่ใช้งานง่าย
และมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำ
พร้อมให้บริการแล้วในประเทศไทยหลังจากได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุนส่วนบุคคลจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
(ก.ล.ต.)
StashAway
ก่อตั้งขึ้นในปี 2559 ที่ประเทศสิงคโปร์และเติบโตอย่างรวดเร็วจนมีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการมากกว่า 3
หมื่นล้านบาทภายในระยะเวลาน้อยกว่า 4 ปี โดย StashAway
ได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุนในกว่า 160 ประเทศทั่วโลกจากการนำเสนอแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่ายที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีบริหารการลงทุนระดับโลกและยังสามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีอย่างต่อเนื่องถึงแม้จะผ่านช่วงวิกฤตต่างๆ
เช่น COVID-19 โดยพอร์ตในสิงคโปร์ที่บริหารด้วยกลยุทธ์การลงทุน
ERAA™ สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่า Benchmark*
ที่มีระดับความเสี่ยงที่เท่ากันได้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่เปิดให้บริการในปี 2560
โดยมีผลตอบแทนเฉลี่ย** ตั้งแต่ 17.1% ต่อปี (สำหรับพอร์ตที่มีความเสี่ยงสูงสุด)
ไปจนถึง 3.8% ต่อปี (สำหรับพอร์ตที่มีความเสี่ยงต่ำสุด) ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
ณ เดือนกรกฎาคม 2564
StashAway
เปิดให้บริการแล้วในสิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง ไทย และ Dubai International
Financial Centre ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
พร้อมทั้งผ่านการระดมทุนมาแล้ว 6 รอบ (Series D)
โดยได้รับการสนับสนุนจากกองทุน Venture Capital ระดับโลกอย่าง Sequoia Capital
India, Eight Roads Ventures และ Square Peg โดยในปี 2563 StashAway
ได้รับการยอมรับจาก World Economic Forum ในฐานะ Technology Pioneer
ที่มีบทบาทในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ
ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงต่อการพัฒนาธุรกิจและสังคมของโลก
ยศกร นิรันดร์วิชย, CFA
กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน สแทชอเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า
"ความต้องการลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศของคนไทยได้เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วง 5
ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ทางเลือกในการลงทุนต่างประเทศยังมีจำกัด มีความซับซ้อน
และมีค่าธรรมเนียมสูง ซึ่งทำให้การกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนของคนไทยยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร
โดยประเทศไทยยังมีสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ที่กระจุกตัวอยู่ในประเทศค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับประเทศสิงคโปร์และฮ่องกงตามข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย
StashAway จึงอยากเข้ามาช่วยให้นักลงทุนไทยก้าวข้ามขีดจำกัดต่างๆ เหล่านี้
โดยการมอบเทคโนโลยีที่ช่วยให้การลงทุนในสินทรัพย์ทั่วโลกเป็น
เรื่องง่ายเพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจที่เติบโตสูง มีการบริหารพอร์ตการลงทุนที่มีประสิทธิภาพตามการเปลี่ยนแปลงของภาวะเศรฐกิจ
และสามารถควบคุมความเสี่ยงได้อย่างแท้จริงเพื่อช่วยให้นักลงทุนไทยสามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้อย่างยั่งยืน เพียงเปิดบัญชีผ่านทางแอปพลิเคชันของเรา
นักลงทุนก็สามารถเข้าถึงพอร์ตการลงทุนที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อเป้าหมายทางการเงินและระดับความเสี่ยงที่รับได้ของแต่ละบุคคล
ด้วยค่าธรรมเนียมที่ต่ำและจบในค่าธรรมเนียมเดียว"
ยศกร
ยังกล่าวถึงจุดเด่นของ StashAway เพิ่มเติมว่า "บริษัทมีเทคโนโลยี Fractional
Shares ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถถือเศษส่วนของหน่วยลงทุน ETF ได้ละเอียดถึง 0.0001
หน่วย ซึ่งจะช่วยลดข้อจำกัดในเรื่องจำนวนเงินขั้นต่ำในการซื้อ ETF
และสามารถลงทุนตาม Asset Allocation ได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ StashAway ยังมีระบบติดตามและทบทวนพอร์ตการลงทุนให้เหมาะกับทุกจังหวะชีวิต
เสมือนมีผู้จัดการกองทุนส่วนตัวคอยดูแลตั้งแต่ต้นจนบรรลุเป้าหมายทางการเงินอีกด้วย"
Freddy Lim (เฟรดดี้ ลิม)
ผู้ร่วมก่อตั้งและ Chief Investment Officer ของกลุ่มบริษัท StashAway
ผู้ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้าน Cross-asset
Investment และมีประสบการณ์บริหารพอร์ตการลงทุนระดับสถาบันในบริษัทชั้นนำอย่าง
Morgan Stanley, Citibank และ Nomura มานานกว่า 20 ปี กล่าวเสริมว่า "StashAway
ช่วยจัดการกับความซับซ้อนในการบริหารการลงทุนต่างประเทศแทนนักลงทุนได้
กลยุทธ์การลงทุนของเราถูกพัฒนาขึ้นโดยทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์บริหารการลงทุนให้กับสถาบันการเงินระดับโลกมานานกว่า
50 ปี พร้อมทั้งได้ผ่านการทดสอบ Stress Testing มากกว่า
30,000 ชั่วโมง
และเพิ่มประสิทธิภาพด้วยการนำมาผสานเข้ากับเทคโนโลยีจนเกิดเป็นกลยุทธ์การลงทุนอัจฉริยะ
ERAA™
ที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลทางเศรษฐกิจอย่างสม่ำเสมอเพื่อระบุประเภทสินทรัพย์ที่เหมาะสมที่สุดและปรับพอร์ตได้อย่างแม่นยำตามการเปลี่ยนแปลงของภาวะเศรษฐกิจ
ซึ่งจะช่วยสร้างผลตอบแทนที่ดีไปพร้อมกับการรักษาระดับความเสี่ยงตามที่กำหนดอยู่เสมอ"
StashAway นำเสนอพอร์ตการลงทุนในสินทรัพย์ทั่วโลกตามระดับความเสี่ยงโดยมีให้เลือกถึง
12 ระดับ ลูกค้าสามารถสร้างพอร์ตได้หลายพอร์ตเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการเฉพาะตัว
ไม่ว่าจะเป็นพอร์ตแบบ General Investing
เพื่อลงทุนให้เงินงอกเงยในระยะยาวหรือพอร์ตแบบ Goal-based Investing เพื่อลงทุนตามเป้าหมายทางการเงินเฉพาะซึ่งมีให้เลือกถึง
8 เป้าหมายและยังสามารถปรับระดับความเสี่ยงและเป้าหมายการลงทุนได้ตลอดเวลา
ลูกค้าสามารถเปิดบัญชีผ่านแอปพลิเคชันเพื่อเริ่มลงทุนกับ StashAway ได้แล้ววันนี้
เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชันผ่านทาง App Store และ Play Store.
Penerbit bertanggung jawab penuh atas isi pengumuman ini